การที่ลูกมีปัญหาการกินและการแหวะบ่อย ๆ เป็นสิ่งที่ทำให้พ่อแม่กังวลและเครียดมาก ในบทความนี้เราจะให้ข้อมูลและวิธีการรับมือเมื่อลูกเลือกกินและลูกแหวะบ่อย เพื่อให้พ่อแม่สามารถดูแลและช่วยให้ลูกได้รับการพัฒนาทางสุขภาพที่ดีที่สุด
สาเหตุที่ลูกเลือกกินและลูกแหวะบ่อย
ลูกแหวะบ่อย อาจเกิดจากหลายสาเหตุ ซึ่งบางสาเหตุก็สามารถแก้ไขได้ง่าย ๆ ด้วยการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการดูแลสุขภาพและการกินของลูก ดังนี้
การพัฒนาและการเจริญเติบโตของลูก
ลูกอาจเลือกกินเพราะอยู่ในช่วงพัฒนาการที่ต้องการทดสอบและสำรวจสิ่งใหม่ ๆ การเลือกกินอาจเป็นการแสดงความต้องการในการควบคุมสิ่งรอบตัวและสร้างความเป็นตัวของตัวเอง
การแหวะบ่อยอาจเกิดจากระบบย่อยอาหารที่ยังพัฒนาไม่เต็มที่ของทารก ทำให้เกิดการแหวะเมื่อท้องมีการรับอาหารมากเกินไปหรือกินอาหารเร็วเกินไป
การแพ้หรือความไม่ชอบในอาหารบางประเภท
ลูกอาจเลือกกินเพราะแพ้อาหารบางประเภท เช่น นมวัว ไข่ หรือถั่ว ซึ่งทำให้เกิดอาการไม่สบายท้องหรือมีอาการแพ้
การแหวะบ่อยอาจเกิดจากการแพ้หรือไม่ย่อยอาหารบางประเภท เช่น โปรตีนจากนมวัว หรือสารอื่น ๆ ที่ร่างกายไม่สามารถย่อยได้ดี
การกินอาหารไม่ถูกต้อง
การที่ลูกกินอาหารเร็วเกินไปหรือกินอาหารในปริมาณมากเกินไปในคราวเดียว อาจทำให้เกิดการแหวะบ่อย ๆ ได้
การกินอาหารที่มีความเข้มข้นสูง เช่น ของทอด หรือของหวาน อาจทำให้ระบบย่อยอาหารของลูกทำงานหนักและเกิดการแหวะได้
วิธีการรับมือเมื่อลูกเลือกกินและลูกแหวะบ่อย
สร้างตารางการกินที่มีความสม่ำเสมอ
การสร้างตารางการกินที่สม่ำเสมอช่วยให้ร่างกายของลูกเรียนรู้ว่าเมื่อไรจะได้รับอาหาร ช่วยลดปัญหาการเลือกกินและการแหวะบ่อยได้
ควรให้ลูกกินอาหารในเวลาเดียวกันทุกวัน และหากลูกกินอาหารไม่หมด ควรให้เขาได้มีเวลาพักก่อนที่จะกินอาหารมื้อต่อไป
ให้ลูกมีส่วนร่วมในการเลือกและเตรียมอาหาร
การให้ลูกมีส่วนร่วมในการเลือกและเตรียมอาหารช่วยให้ลูกมีความรู้สึกสนุกและอยากลองกินอาหารใหม่ ๆ มากขึ้น
ลองพาลูกไปซื้อของในตลาด หรือให้เขามีส่วนร่วมในการเตรียมอาหาร เช่น การล้างผัก หรือการตัดผลไม้
ให้ลูกมีเวลาในการปรับตัวกับอาหารใหม่ ๆ
การที่ลูกได้ทดลองอาหารใหม่ ๆ หลายครั้งจะช่วยให้เขาปรับตัวและยอมรับอาหารนั้นได้ ควรให้ลูกมีโอกาสลองอาหารใหม่ ๆ อย่างน้อย 10-15 ครั้งก่อนที่จะสรุปว่าเขาไม่ชอบอาหารนั้น
ลองเปลี่ยนวิธีการเตรียมอาหาร เช่น การต้ม การนึ่ง หรือการผัด เพื่อให้ลูกได้ลองอาหารในรูปแบบที่แตกต่างกัน
ไม่กดดันลูกในการกิน
การกดดันลูกให้กินอาหารอาจทำให้เขามีความรู้สึกไม่ดีและยิ่งไม่อยากกิน ควรให้ลูกมีอิสระในการเลือกว่าจะกินหรือไม่กินอาหาร
การสนทนาเกี่ยวกับเรื่องอื่น ๆ ขณะกินอาหารช่วยลดความกดดันและทำให้บรรยากาศการกินอาหารมีความสนุกสนาน
เสนอกิจกรรมที่ไม่เกี่ยวกับการกิน
การมีกิจกรรมที่ไม่เกี่ยวกับการกินช่วยให้ลูกได้พักผ่อนและลดความเครียด เช่น การเล่นของเล่น การวาดภาพ หรือการอ่านหนังสือ
การสร้างกิจกรรมที่เป็นประโยชน์และสนุกสนานช่วยลดความกังวลเรื่องการกินของลูก
เคล็ดลับเพิ่มเติมในการรับมือกับการแหวะบ่อย
เลือกอาหารที่เหมาะสม
เลือกอาหารที่มีความเบาและย่อยง่าย เช่น ข้าวโอ๊ต ข้าวต้ม หรือผักต้ม ช่วยลดการแหวะและทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น
หลีกเลี่ยงอาหารที่มีความเข้มข้นสูง เช่น ของทอด หรือของหวาน ซึ่งอาจทำให้เกิดการแหวะได้ง่าย
ให้ลูกกินอาหารในปริมาณน้อย ๆ แต่บ่อยครั้ง
การให้ลูกกินอาหารในปริมาณน้อย ๆ แต่บ่อยครั้งช่วยลดความเสี่ยงในการแหวะและทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น
ควรแบ่งอาหารเป็นมื้อเล็ก ๆ และให้ลูกกินทุก 2-3 ชั่วโมง
หลีกเลี่ยงการให้ลูกกินอาหารทันทีหลังจากวิ่งเล่นหรือกิจกรรมที่ใช้พลังงานมาก
ควรให้ลูกได้พักก่อนที่จะกินอาหารหลังจากที่วิ่งเล่นหรือมีกิจกรรมที่ใช้พลังงานมาก ๆ เพื่อให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้นและลดการแหวะ
ใช้ท่าทางที่เหมาะสมขณะกินอาหาร
ควรให้ลูกนั่งตรง ๆ และใช้ช้อนตักอาหารช้า ๆ ช่วยลดการกลืนอากาศและลดการแหวะ
การให้ลูกนั่งอยู่ในท่าที่สบายและไม่เร่งรีบช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น
เมื่อใดที่ควรพาลูกไปพบแพทย์
ลูกแหวะบ่อย อาจเป็นสัญญาณที่ต้องการการดูแลจากแพทย์ ดังนี้:
- ลูกแหวะอย่างต่อเนื่องและไม่สามารถปลอบโยนได้
- ลูกมีอาการปวดท้องหรือมีอาการป่วยอื่น ๆ เช่น มีไข้สูงหรือมีอาการทางสุขภาพที่น่ากังวล
- ลูกมีน้ำหนักลดหรือไม่เจริญเติบโตตามเกณฑ์
- ลูกมีอาการขาดน้ำ เช่น ปากแห้ง ปัสสาวะน้อย หรือไม่มีน้ำตาเวลาร้องไห้
การรับมือเมื่อลูกเลือกกินและลูกแหวะบ่อยอาจต้องใช้ความอดทนและการเข้าใจถึงสาเหตุของปัญหา หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้พ่อแม่มีแนวทางในการดูแลและช่วยให้ลูกได้รับการพัฒนาทางสุขภาพที่ดีที่สุด